IMeDeeShop

IMeDeeShop รวมสุดยอดอาหารเสริมที่นิยม เพื่อสุขภาพ ผิวขาว ลดน้ำหนัก แก้ตกขาว กระชับมดลูก ของแท้แน่นอน ขายปลีก-ส่งราคาถูก จำหน่ายซุปเปอร์รีไลท์ ไบโอซิลเวอร์ ว่านชักมดลูกสูตร1,2,3,เบอร์777 กวาวเครือขาว ตราหมอเส็ง ออนไลน์ 24 ชม. ผ่านการรับรองมาตราฐาน อย.+GMP+ฮาลาล ปลอดสารพิษ ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% ออนไลน์ 24 ชั่วโมง ที่ทาง IMeDeeShop คัดสรร เฟ้นหา และเลือกที่จะนำสิ่งดีๆ ส่งให้ถึงมือคุณ

IMeDeeShop แหล่งจำหน่ายและสมัครสมาชิกธุรกิจ ยินดีรับสมัครสมาชิกธุรกิจ ให้ท่านมีรายได้ง่ายๆทันที รีบด่วนก่อนที่โอกาศดีๆแบบนี้จะผ่านไป เข้าไปดูรายละเอียดและสั่งซื้อสินค้าได้ที่นี่ www.imedeeshop.blogspot.com


คลิกอ่านเพิ่มเติม หรือสมัครสมาชิกธุรกิจได้ ที่นี่

ไม่เสียค่าสมัคร ไม่ต้องรักษายอด ไม่บังคับให้ซื้อสินค้า เลือกได้เองทุกอย่าง รับโบนัส 9 ช่องทาง ด้วยแผนที่จ่ายเร็วจ่ายจริง ทำง่ายไม่ต้องรักษายอด ช่วยให้คุณสุขภาพดีและร่ำรวยได้จริง มาเริ่มต้นธุรกิจสร้างรายได้ คลิกอ่านที่นี่

Line : jeab.bonsongclothing


เข้าชมบล็อก หรือ เฟสบุ๊ค


12 มิถุนายน 2555

ดื่มกาแฟอย่างไร ไม่อ้วน ลดเสี่ยงมะเร็ง

ดื่มกาแฟอย่างไร ไม่อ้วน ลดเสี่ยงมะเร็ง

กาแฟ ไม่ว่าจะแบบร้อน เย็น ปั่น คงเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของใครหลายคน หากแต่น้ำตาล ครีม หรือนมที่ใส่เสริมเข้าไปนั้น อาจเป็นปัจจัยทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มได้ จึงกลายปัญหาคับข้องใจของบรรดาคอกาแฟ ที่อยากดื่มด่ำกลิ่น รส และความรู้สึกตื่นตัว แต่ก็กลัวอ้วน


กรณีที่ตัดใจจากกาแฟไม่ได้ ต้องรู้จักเลือกกาแฟที่ดื่มแล้วไม่อ้วน ที่ง่ายที่สุด อาจหันไปดื่มกาแฟดำ แต่คงไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เพราะความเข้มข้นนั้นอาจบีบหัวใจได้ ขณะที่การใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ครีมเทียมสูตรไขมันต่ำ เติมเพิ่มรสชาติให้กาแฟก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง

สำหรับผู้ที่ไม่นิยมชงเอง แต่เน้นแบบปรุงสำเร็จ คุณศรีประภา จิงประเสริฐสุข ผู้จัดการฝ่ายการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มฟังก์ชันนอล บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ในฐานะผู้เชี่ยวชาญกาแฟดื่มแล้วไม่อ้วน แนะเทคนิคเลือกกาแฟสำเร็จรูป โดยเริ่มจากดูฉลากข้างผลิตภัณฑ์ เพื่อดูปริมาณน้ำตาล ไขมัน และแคลอรี่ จะต้องไม่สูง

นอกจากนี้ส่วนประกอบสำคัญของกาแฟปรุงสำเร็จที่ดื่มแล้วไม่อ้วน ควรมี
ใยอาหาร ประมาณร้อยละ 30 เพื่อกระตุ้นการขับถ่าย
สารสกัดจากถั่วขาว ในปริมาณ 500 มิลลิกรัม จะให้ประสิทธิภาพดักเอนไซม์ย่อยแป้งได้สูงถึงร้อยละ 65 ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายแป้งเหล่านั้นออกมาตามปกติ ดังนั้นจึงเหลือเข้าสู่ร่างกายเพียงร้อยละ 35 ถือเป็นการลดปริมาณไขมันสะสมไปโดยอัตโนมัติ
เมล็ดกาแฟสด เมล็ดกาแฟที่ไม่ผ่านการคั่ว เพราะจะอุดมด้วยสารคลอโรเจนิก แอซิด หรือสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ลดโอกาสเกิดมะเร็งเนื้อร้าย
ส่วนสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึงด้วย คือ มีปริมาณไขมันต่ำ และไม่มีโคเลสเตอรอล

ยังมีข้อควรรู้ที่อาจทำคอกาแฟอึ้ง! โดยคุณศรีประภา เผยว่า กาแฟเย็น 1 แก้ว ที่ยังไม่ได้เติมน้ำตาลหรือนมเพิ่ม ก็สามารถให้พลังงาน (แคลอรี่) พอๆ กับข้าวกระเพราไก่ 1 จาน ดังนั้น หากดื่มแล้ว แนะนำให้ควบคุมอาหารในมื้ออื่นๆ ของวัน ในผู้หญิงถ้าได้พลังงานไม่เกิน 1,200 กิโลแคลอรี่/วัน ผู้ชายไม่เกิน 1,600-1,700 กิโลแคลอรี่/วัน น้ำหนักตัวก็จะไม่เพิ่มขึ้น

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
MSN
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์




รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก ที่นี่

ซันคอฟฟี่ SunCoffee
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซันคอฟฟี่ Suncoffee กาแฟควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน
ซันคอฟฟี่ Suncoffee กาแฟสำเร็จรูปผสมชนิดผง สูตรปราศจากน้ำตาล

ซันคอฟฟี่ Suncoffee คือ กาแฟควบคุมน้ำหนัก กระชับสัดส่วน

ซันคอฟฟี่ Suncoffee มีสารซูคลาโลส เป็นสารให้ความหวานที่มีประสิทธิภาพ ปราศจากน้ำตาล และไม่มีสารตกค้างในร่างกาย เหมาะสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวาน ป้องกันฟันผุ

10 ซองต่อกล่อง ขายแพค 2 กล่อง ราคาปกติ 390 บาท

โปรโมชั่นพิเศษสำหรับสมาชิก
แพค 2 กล่อง ลดเหลือ 370 บาทเท่านั้น

คลิก สั่งซื้อ   สมัครสมาชิกฟรี

ค่าจัดส่ง 150 บาทต่อครั้ง ผ่านระบบจัดส่งkerry ทั่วไทย 



2 มิถุนายน 2555

วิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลโลก ประวัติและความเป็นมาของวันวิสาขบูชา

วิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลโลก ประวัติและความเป็นมาของวันวิสาขบูชา



วิสาขบูชา (Vesak Day) วันสำคัญสากลโลก
วิสาขบูชา 2555
วันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลโลก Vesak Day
วันวิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลของโลก
วันวิสาขบูชา ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ หรือราวเดือนพฤษภาคม แต่หากตรงกับปีอธิกมาส คือ มีเดือน ๘ สองหน วันวิสาขบูชาจะเลื่อนไปเป็นวันขึ้น ๑๕ ค่ำ กลางเดือน ๗ หรือราวเดือนมิถุนายน

วิสาขบูชา ย่อมาจากคำว่า “วิสาขปุรณมีบูชา” แปลว่า การบูชาพระในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ (คือเดือน ๖) ซึ่งมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ๓ ประการ ในวันวิสาขบูชา ดังนี้
๑. เป็นวันประสูติ นับเป็นวันที่รูปกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นบนผืนโลก ณ ลุมพินีสถาน เมื่อวันเพ็ญเดือน ๖ ตรงกับวันศุกร์ขึ้น ๑๕ ค่ำ ก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี พระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ครั้นพระกุมารประสูติได้ ๕ วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ"
๒. เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ อนุตตรสัมโพธิญาณ ณ ร่มต้นอัสสัตถพฤกษ์ หรือต้นพระศรีมหาโพธิ ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา พระมหาบุรุษได้ทรงบรรลุสัพพัญญุตญาณ
๓. เป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี ณ ป่าสาลวัน เมืองกุสินารา
“เราเป็นผู้ครอบงำธรรมทั้งปวงรู้ธรรมทั้งปวง อันตัณหาและทิฏฐิ ไม่ฉาบทาแล้ว ในธรรมทั้งปวงละธรรมเป็นไปในภูมิสามได้หมด พ้นแล้วเพราะความสิ้นไปแห่งตัณหา เราตรัสรู้ยิ่งเองแล้ว จะพึงอ้างใครเล่า อาจารย์ของเราไม่มี คนเช่นเราก็ไม่มี บุคคลเสมอเหมือนเราก็ไม่มี ในโลกกับทั้งเทวโลก เพราะเราเป็นพระอรหันต์ในโลก เราเป็นศาสดา หาศาสดาอื่นยิ่งกว่ามิได้ เราผู้เดียวเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ เราเป็นผู้เย็นใจ ดับกิเลสได้แล้ว เราจะไปเมืองในแคว้นกาสี เพื่อประกาศธรรมจักรให้เป็นไป เราจะตีกลองประกาศอมตธรรมในโลกอันมืด เพื่อให้สัตว์ได้ธรรมจักษุ”
การอุบัติขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ เปรียบเสมือนดวงสุริยาที่ทอแสงให้ความสว่างในชีวิตแก่สรรพสัตว์ทั้งปวงโดยไม่เลือกที่รักผลักที่ชัง พระพุทธองค์เสด็จมาเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติและสรรพสัตว์ทั้งหลาย
วันวิสาชบูชา องค์กรสหประชาชาติจัดเป็นวันสำคัญสากลโลก

วันวิสาขบูชาหรือ Vesak Day เป็นวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สร้างบารมี
การจะพรรณนาพุทธคุณด้วยเวลาอันสั้นนั้น เปรียบไปแล้วก็เหมือนปริมาณน้ำที่ลอดรูเข็ม เมื่อเทียบกับน้ำในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เพราะว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระคุณอันยิ่งใหญ่ ต่อสัตว์โลกตั้งแต่สมัยที่สร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ ท่านคิดที่จะตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง และก็สั่งสอนสัตว์โลกทั้งหลาย ทั้งมนุษย์และเทวา ให้ได้บรรลุธรรมตาม เมื่อคิดแล้ว ก็ลงมือทำไปด้วย ตั้งใจสร้างบารมี ๓๐ ทัศน์เรื่อยมา ทั้งทรัพย์ อวัยวะและก็ชีวิต นับครั้งไม่ถ้วน ยาวนานถึง ๒๐ อสงไขยแสนมหากัป จนบารมีของท่านเต็มเปี่ยม ได้มาเสวยทิพยสมบัติอยู่สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นท้าวสันดุสิต ปกครองสวรรค์ชั้นดุสิต เพื่อรอเวลาอันควร
ท้าวสันตดุสิต
ท้าวสันตดุสิตปกครองสวรรค์ชั้นดุสิต รอเวลาลงมาประสูติ
เมื่อถึงกาลสมัยอันควรที่จะมาตรัสรู้ เทวดา พรหม อรูปพรหม ทั่วหมื่นโลกธาตุ ตลอดภพสามก็มาประชุมพร้อมกัน และก็อัญเชิญพระองค์ลงมาบังเกิดในโลกมนุษย์ ซึ่งท่านก็จะตรวจตราดู ปัญจมหาวิโลกนะ คือ ดูทวีป ประเทศ อายุขัยของมนุษย์ยุคนั้น ดูตระกูลที่มนุษย์ยกย่องว่าเป็นเลิศในโลก และก็ดูพุทธมารดา ตรวจตราดูแล้วเห็นว่า เป็นการที่เหมาะสมจะได้มาเกิดในชมพูทวีป ในมัชฌิมประเทศ ในยุคที่มนุษย์มีประมาณ ๑๐๐ ปี เกิดในขัตติยตระกูล และทรงกำหนดเอาพระนางสิริมหามายาเป็นพุทธมารดา จากนั้นจึงรับอาราธนา และก็อธิษฐานจิตลงมาเกิดในโลกมนุษย์
วันประสูติ - วันวิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลของโลก
ย้อนไปก่อนพุทธศักราช ๘๐ ปี ณ สวนลุมพินี ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์ และกรุงเทวทหะ พระจันทร์เสวยฤกษ์วิสาขะ ตรงกับวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ วันนี้ นับเป็นวันที่รูปกายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นบนผืนโลก
พระนางสิริมหามายาผู้เป็นพุทธมารดา เมื่อทรงตั้งครรภ์ ด้วยความที่พระนางทรงรักษาศีลและฝึกสมาธิ(Meditation)มามาก ทำให้ทรงเห็นพระโพธิสัตว์ที่อยู่ในครรภ์กำลังนั่งขัดสมาธิอย่างชัดเจน เหมือนอย่างกับพระโพธิสัตว์นั่งสมาธิอยู่นอกพระครรภ์ ครั้นถึงคราวพระโพธิสัตว์จะประสูติปรากฏว่า พระพุทธมารดาทรงประทับยืน แทนที่จะนอนเหมือนอย่างกับคนอื่นๆ แล้วพระโพธิสัตว์ประสูติโดยเอาพระบาทออกมาก่อน ประดุจพระธรรมกถึกหย่อนขาขวาลงจากธรรมาสน์ ทันทีที่พระบาทเหยียบถึงพื้น ก็สามารถยืนและเดินได้เลยทันที นับเป็นอัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นได้ยาก
ประสูติในวันวิสาขบูชา
เมื่อประสูติแล้วทรงเดินได้เจ็ดก้าวในวันวิสาขบูชา Vesak Day
เมื่อพระโพธิสัตว์ประสูติและยืนได้ถนัดแล้ว ทรงเปล่งอาสภิวาจาที่ทรงยืนยันถึงวัตถุประสงค์ในการเกิดอย่างชัดเจนว่า
“เราเป็นผู้เลิศ ผู้เจริญ ผู้ประเสริฐที่สุดในโลก
ชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้ภพใหม่ไม่มีแก่เราอีกแล้ว”
ขณะที่พระโพธิสัตว์กำลังประสูตินั้น ได้บังเกิดความสว่างไสวขึ้นในโลกและไกลไปถึงหมื่นโลกธาตุ บุพนิมิต ๓๒ ประการปรากฏขึ้น ในหมื่นจักรวาลได้มีแสงสว่างสุดจะประมาณแผ่ซ่านไป พวกคนตาบอดต่างก็มองเห็นได้ พวกคนหูหนวกก็ได้ยินเสียง พวกคนใบ้ก็พูดได้ พวกคนค่อมก็มีตัวตรงขึ้น คนง่อยเปลี้ยเสียขาก็เดินด้วยเท้าได้ สัตว์ทั้งปวงที่ถูกจองจำก็พ้นจากเครื่องพันธนาการ ไฟในนรกทุกแห่งก็ดับ ในเปรตวิสัยความหิวกระหายก็สงบระงับ เหล่าสัตว์เดียรัจฉานก็ไม่มีความกลัวภัย โรคและไฟกิเลสมีราคะเป็นต้นของสัตว์ทั้งปวงก็สงบระงับ นี่ก็นับเป็นความมหัศจรรย์ที่บังเกิดขึ้นได้ยากในโลกแท้
เสด็จออกบวช
เสด็จออกบวชที่ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา
ครั้นพระองค์ทรงเจริญวัยขึ้น ก็ศึกษาความรู้จากครูที่มีความรู้อันสูงสุดของแผ่นดิน ท่านใช้เวลาเพียงแค่ ๗ วันเท่านั้น ก็เรียนจนหมดภูมิความรู้ของครูที่อุตสาหศึกษามาตลอดชีวิต แม้พระองค์จะทรงพรั่งพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติและคุณสมบัติ แต่ก็ไม่ประมาทในชีวิต ครั้นได้ทอดพระเนตรเทวทูต คือ เห็นคนเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และก็เห็นสมณะ ก็คิดได้ว่า ต้องเลือกชีวิตสมณะ เพราะเป็นชีวิตที่ประเสริฐที่สุด ที่จะมุ่งไปสู่หนทางพ้นทุกข์ ท่านจึงเสด็จออกผนวชเมื่อได้ ๒๙ พรรษา และได้ทรงม้ากันฐกะ ออกผนวชที่ริมฝั่งแม่น้ำ เนรัญชรา
วันตรัสรู้ - วันวิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลของโลก
หลังจากได้บำเพ็ญเพียรมายาวนานถึง ๖ ปี ภายใต้ต้นอัสสัตถพฤกษ์ ในวันนั้น พระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงนั่งคู้อปราชิตบัลลังก์ซึ่งแม้สายฟ้าจะผ่าลงตั้ง ๑๐๐ ครั้งก็ไม่แตกทำลาย โดยทรงอธิษฐาน
“แม้เลือดและเนื้อในกาย จักแห้งเหือดเหลือแต่หนัง เอ็น กระดูกก็ตาม
ตราบใดที่เรายังไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ ได้รู้ ได้เห็นธรรมอันยิ่งแล้ว
จักไม่ยอมลุกจากบัลลังก์นี้เป็นอันขาด จักนั่งอบรมกาย วาจา ใจ ให้ละเอียดถึงที่สุดให้ได้
ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา (Vesak Day)
พอพญามารรู้เข้า ก็สะดุ้งพรึบกันทั้งภพทีเดียว ได้เข้ามาสิงบังคับท้าวปรนิมมิตสวัตดี ให้เป็นเทวบุตรมาร แล้วก็พากันยกพลพักมารมาข่มขู่ มาอ้างสิทธิ์ว่า ที่ตรงนี้น่ะ เป็นที่ของพญามาร โดยมีเสนามารพร้อมด้วยพรรคพวกของตัวมาร พระโพธิสัตว์ท่านก็ไม่หวั่นไหว ท่านนั่งทำใจหยุดใจนิ่งอย่างเดียว ในที่สุดพระองค์ก็สามารถเอาชนะได้ ด้วยอานุภาพแห่งบารมีธรรม ที่สั่งสมมาอย่างดีแล้ว
พระมหาบุรุษทรงพิจารณาปัจจยาการอันประกอบด้วยองค์ ๑๒ โดยอนุโลมและปฏิโลม หมื่นโลกธาตุหวั่นไหว ๑๒ ครั้ง จนจรดน้ำรองแผ่นดินเป็นที่สุด พระมหาบุรุษได้ทรงบรรลุสัพพัญญุตญาณ ในเวลาอรุณขึ้น
ทรงตรัสรู้ในวันวิสาขบูชา
ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองในวันวิสาขบูชา (Vesak Day)
เมื่อพระมหาบุรุษทรงบรรลุพระสัพพัญญุตญาณแล้ว โลกันตนรกกว้าง ๕๐๐ โยชน์ในระหว่างจักรวาลทั้งหลาย ไม่เคยสว่างด้วยแสงพระอาทิตย์ ๗ ดวง ก็ได้มีแสงสว่างไสวเป็นอันเดียวกัน มหาสมุทรลึก ๘๔,๐๐๐ โยชน์ ได้กลายเป็นน้ำหวาน แม่น้ำทั้งหลายหยุดไหล คนบอดแต่กำเนิดก็มองเห็นรูป คนหนวกแต่กำเนิดก็กลับได้ยินเสียง คนง่อยเปลี้ยแต่กำเนิดก็เดินได้ กรรมกรณ์ทั้งหลายมีเครื่องจองจำเป็นต้น ได้ขาดหลุดไป !! พระมหาบุรุษได้รับการบูชาจากเหล่าทวยเทพด้วยสมบัติอันประกอบด้วยสิริหาปริมาณมิได้ ทรงเปล่งอุทานว่า
“เราเมื่อแสวงหานายช่างคือตัณหา ผู้กระทำเรือน
เมื่อไม่ประสบ ได้ท่องเที่ยวไปยังสงสารมิใช่น้อยการเกิดบ่อยๆ เป็นทุกข์
ดูก่อนนายช่างผู้กระทำเรือน เราเห็นท่านแล้ว ท่านจักทำเรือนไม่ได้อีกต่อไป
ซี่โครงทั้งปวงของท่าน เราหักแล้ว ยอดเรือนเรากำจัดแล้ว
จิตของเราถึงวิสังขารคือนิพพานแล้ว เราได้ถึงความสิ้นตัณหาแล้ว”
วันวิสาขบูชาเป็นวันประสูติตรัสรู้และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมสั่งสอนชาวโลกให้ได้เห็นธรรม
เมื่อตรัสรู้แล้ว ก็ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเปี่ยมล้น อบรมพร่ำสอนชาวโลกให้ได้รู้และเห็นธรรมตามไปด้วย ตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ๔๕ พรรษา พระพุทธองค์ต้องทรงดำเนินด้วยพระบาทเปล่า เสด็จจาริกไปเผยแผ่พระศาสนาตามดินแดนต่างๆ อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทรงแสดงธรรมประดุจหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือจุดประทีปในมืดเพื่อให้คนมองเห็น ทำให้มีสรรพสัตว์ได้บรรลุธรรมาภิสมัยเป็นอริยบุคคลมากมายนับไม่ถ้วน จากนั้นจึงเสด็จดับขันธปรินิพพาน
วันปรินิพพาน - วันวิสาขบูชา Vesak Day วันสำคัญสากลของโลก
เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ ๘๐ พรรษา และวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ก่อนพุทธศักราช ๑ ปี ณ ป่าสาลวัน เมืองกุสินารา วันนี้...เป็นวันที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพาน รูปกายที่ประกอบด้วยเลือดเนื้อแตกดับลง คงเหลือแต่พระธรรมกาย เสด็จสู่พระนิพพาน ก่อนจะเสด็จดับขันธ์นั้น ยังทรงมีมหากรุณาประทานปัจฉิมโอวาทแก่พุทธบริษัทว่า
"สังขารร่างกายของเราไม่เที่ยง มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา
พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด"
วันวิสาขบูชาเป็นวันปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (Vesak Day)
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสด็จดับขันธปรินิพพาน ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชาในปัจจุบัน Vesak Day
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวการประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยย่อ ซึ่งเป็นต้นแบบอย่างดีให้พวกเราได้ทำตาม พระองค์เป็นบรมครูที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกจากอดีตมาจนกระทั่งปัจจุบัน ดังนั้น ในวันเพ็ญเดือนหกของทุกปีหรือวันวิสาขบูชา
พุทธบริษัทรวมใจ จุดวิสาขประทีป น้อมถวายเป็นพุทธบูชาในวันวิสาขบูชา
กิจกรรมในวันวิสาขบูชาVesak Day
จุดวิสาขประทีปในวันวิสาขบูชา (Vesak Day or Visakha Puja Day)
วันวิสาขบูชาเป็นวันที่พวกเราเหล่าพุทธบริษัทควรจะได้ได้ชักชวนชาวโลกให้มาเจริญพุทธานุสติ ระลึกถึงหนทางการสร้างบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่วันแรกจนวันสุดท้าย หันมาศึกษาหลักธรรมที่ทรงประทานไว้ เป็นดังประทีปธรรมนำทางชีวิตที่ถูกต้องไปสู่สวรรค์นิพพาน เราทั้งหลายจะได้มาร่วมกันนั่งสมาธิเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายซึ่งเป็นกายแห่งการตรัสรู้ธรรม ทุกท่านควรจะหาโอกาสได้ไปจุดประทีป เดินเวียนประทักษิณรอบพุทธเจดีย์ที่ตนเคารพนับถือเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ให้ภายนอกได้สว่างด้วยแสงเทียน ภายในสว่างด้วยแสงธรรม
“พระอาทิตย์ ส่องแสงในเวลากลางวัน พระจันทร์ย่อมส่องแสงในเวลากลางคืน กษัตริย์เมื่อทรงเครื่องรบแล้วย่อมรุ่งเรือง พราหมณ์ผู้มีความเพ่งเพียร ย่อมรุ่งเรือง ส่วนพระพุทธเจ้า ย่อมรุ่งเรืองด้วยเดชตลอดทั้งกลางวัน และกลางคืนทั้งหมด”
พระธรรมเทศนาโดย : พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)
 
 
ขอขอบคุณบทความดีๆจาก

กราบพระสารีริกธาตุราชบรรณาการแด่ร.5 สร้างสิริมงคลวิสาขบูชา

กราบพระสารีริกธาตุราชบรรณาการแด่ร.5 สร้างสิริมงคลวิสาขบูชา 




     ย้อนหลังกลับไปเมื่อร.ศ.115 หรือตรงกันกับพ.ศ.2439 อินเดียยังคงอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ มิสเตอร์วิลเลียม เปปเป วิศวกรชาวอังกฤษ ซึ่งขณะนั้นอาศัยอยู่ในประเทศใต้อาณานิคมอย่างอินเดีย ได้เห็นลูกไฟสว่างไสวจากที่พักของเขา แสงประหลาดนั้นเปล่งแสงท่ามกลางความมืดของยามราตรี วิศวกรจากอังกฤษรายนั้นเห็นว่าทิศทางของแสงอยู่ทางสถูปร้าง วันต่อมาเขาไปขุดบริเวณนั้นและได้พบกับผอบบรรจุของบางอย่าง โดยผอบนั้นมีจารึกตัวอักษรโบราณกำกับไว้ด้วย





ภายหลังจึงทราบว่า เป็นอักษรโบราณซึ่งถอดความโดยผู้เชี่ยวชาญออกมาได้ความว่าของในผอบนั้นคือ “พระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในส่วนของศากยะราชสกุล ซึ่งได้รับการแบ่งไปในคราวโทณพราหมณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุ ภายหลังถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระหลังพุทธกาล”




เมื่อทราบดังนั้น รัฐบาลอังกฤษ ซึ่งปกครองประเทศอินเดีย ในขณะนั้น เห็นสมควรถวายพระบรมสารีริกธาตุดังกล่าว แด่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นพระเจ้าแผ่นดินเพียงพระองค์เดียว ที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง


ปีพุทธศักราช 2440 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ขณะดำรงยศเป็นพระยาสุขุมนัยวินิต เป็นผู้แทนรัฐบาล ออกเดินทางไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากรัฐบาลประเทศอินเดีย กลับสู่สยามประเทศ และได้มีจดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า ในพิธีรับมอบ เจ้าพระยายมราชเกิดความสงสัยในพระบรมสารีริกธาตุ พลันก็ปรากฏรัศมีเป็นประกายแผ่ออกจากพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่น่าอัศจรรย์ จนหมดความสงสัย ขณะเดินทางกลับเรือได้เผชิญพายุอย่างหนัก ท่านได้อธิษฐานขอบารมีจากพระบรมสารีริกธาตุ ให้ปลอดภัย ก็ปรากฏรัศมีพวยพุ่งออกจากพระบรมสารีริกธาตุ พายุได้พลันสงบลง




ปีพุทธศักราช 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ไว้ ณ พระเจดีย์บรมบรรพต ภูเขาทอง วัดสระเกศ และ ประกอบพิธีสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ อย่างยิ่งใหญ่ เป็นเวลา 7 วัน 7 คืน นับตั้งแต่นั้นมา


อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานถุงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดียนั้น แก่ เจ้าพระยายมราช นำไปเก็บรักษาไว้ เพื่อเป็นบรรณาการในการเป็นผู้แทนรัฐบาลกรุงสยาม ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ในคราวนั้นด้วย ซึ่งพระบรมสารีริกธาตุ ได้เสด็จมาเพิ่ม ในถุงบรรจุ ของเจ้าพระยายมราชนั้น เมื่อนำความ ขึ้นกราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาทราบแล้ว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยายมราช นำไปเก็บรักษาสักการะ บูชาไว้ที่บ้านของท่าน ตามเดิม




แต่ภายหลัง ผู้สืบสกุลเจ้าพระยายมราช ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนนั้น มาถวายสมเด็จพระพุฒาจารย์ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งคณะสงฆ์วัดสระเกศ พร้อมพุทธศาสนิกชน ทั้งมวล เห็นสมควรอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งผู้สืบสกุลเจ้าพระยายมราช ได้อัญเชิญมาถวายนั้น ขึ้นไปประดิษฐานไว้ ณ พระเจดีย์บรมบรรพต ภูเขาทอง





และเนื่องใน วันวิสาขบูชา พ.ศ.2555 ตรงกับวันที่ 4 มิ.ย.นี้จะเป็นปีที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ครบ 2600 ปี หรือที่เรียกว่า พุทธชยันตี 2600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า นับเป็นโอกาสมหามงคลที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาต่างกำหนดให้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองถวายเป็นพุทธบูชาในช่วงสัปดาห์วันวิสาขบูชาอย่างยิ่งใหญ่





ในส่วนของประเทศไทยโดยมหาเถรสมาคม(มส.) และรัฐบาลไทย ได้มอบหมายให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) จัดงานวันวิสาขบูชาที่วัดสระเกศฯ ในวันที่ 2-4 มิ.ย. และกำหนดให้มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานอยู่บนบรมบรรพต (ภูเขาทอง) ไปประดิษฐานยังพระอาราม และสถานที่สำคัญต่างๆ รอบกรุงเทพฯเพื่อให้พุทธศาสนิกชน ได้สักการะบูชาพระบรมสารีริกธาตุเพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างใกล้ชิด ถือว่าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุไปประดิษฐานบนภูเขาทองในสมัยรัชกาลที่ 5 วัดยังไม่เคยอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุทั้งหมดออกนอกวัด ไปประดิษฐานที่วัดอื่นมาก่อน




การอัญเชิญพระบรมสารีริธาตุในครั้งนี้จะจำลองมาจากพิธีอัญเชิญในอดีต โดยจะอัญเชิญลงเรือหลวงไปยังพระสมุทรเจดีย์ จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดต่างๆ รอบกรุงเทพฯ มีกำหนดการดังนี้



วันที่ 28 พ.ค.อัญเชิญไปยังโรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ ขึ้นประดิษฐานบนเรือหลวง

วันที่ 29 พ.ค. เรือหลวง จะออกเดินทางถึงท่าน้ำพระสมุทรเจดีย์ และอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ลงจากเรือหลวง ประดิษฐานยังพระสมุทรเจดีย์

วันที่ 30 พ.ค. อัญเชิญประดิษฐานวัดบางนาใน เขตบางนา

วันที่ 31 พ.ค.อัญเชิญประดิษฐานวัดไตรมิตรวิทยาราม เขตสัมพันธวงศ์

วันที่ 1 มิ.ย.อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ไปประดิษฐานที่วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร

วันที่ 2 มิ.ย. อัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ

วันที่ 3 มิ.ย. อัญเชิญประดิษฐานที่วัดประยุรวงศาวาส เขตธนบุรี

วันที่ 4 มิ.ย. อัญเชิญประดิษฐานยังลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ เขตพระนคร และในวันเดียวกันจะอัญเชิญกลับมาประดิษฐานที่วัดสระเกศฯ



...วานนี้ผมมีโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งแก่ชีวิตครับ มีโอกาสร่วมพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมายังวัดไตรมิตรฯ ได้มีโอกาสกราบและถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด หากหยุดสามวันนี้ท่านผู้อ่านที่รักยังไม่มีโปรแกรมไปไหน สำหรับท่านผู้อ่านที่เป็นพุทธศาสนิกชน ผมขออนุญาตเชิญชวนทุกท่านไปร่วมกราบนมัสการบูชาพระบรมสารีริกธาตุเป็นมงคลแห่งชีวิตในวันพระใหญ่อย่างวิสาขบูชา ในโอกาสฉลองพุทธชยันตีกันนะครับ

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก
http://travel.truelife.com/detail/1757669

ลิงค์ประกาศซุปเปอร์รีไลท์

1.ชุดซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite 5กล่อง
2.ซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite เคล็ดลับแห่งมนต์เสน่ห์ชวนหลงไหล
3.ซุปเปอร์รีไลท์ หุ่นเพรียวสวย ย้อนวัยเป็นสาว ขาวอมชมพู ภายนอกกระจ่างใส ภายในฟิตกระชับเผาผลาญไขมัน รูปร่างได้สัดส่วน
4.ซุปเปอร์รีไลท์ หุ่นเพรียวสวย ย้อนวัยเป็นสาว ขาวอมชมพู ภายนอกกระจ่างใส ภายในฟิตกระชับ มี อย.รับรอง
5.ซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite ผลิตภัณฑ์เพื่อสาวๆทันสมัย ถูกกว่าและดีกว่า มี อย.รับรอง
6.ซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite ผลิตภัณฑ์เพื่อสาวๆทันสมัย มี อย.รับรอง
7.ซุปเปอร์รีไลท์ หุ่นเพรียวสวย ย้อนวัยเป็นสาว ขาวอมชมพู ภายนอกกระจ่างใส ภายในฟิตกระชับเผาผลาญไขมัน รูปร่างได้สัดส่วน
8.ซุปเปอร์รีไลท์ หุ่นเพรียวสวย ย้อนวัยเป็นสาว ขาวอมชมพู ภายนอกกระจ่างใส ภายในฟิตกระชับเผาผลาญไขมัน
9.ซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite เคล็ดลับแห่งมนต์เสน่ห์ชวนหลงไหล
10.ซุปเปอร์รีไลท์ SuperRelite "เคล็ดลับแห่งมนต์เสน่ห์ชวนหลงไหล"
11.Imedeeshop Healthy Food (ซุปเปอร์รีไลท์+ไบโอซิลเวอร์)